การ "ปิ้งย่าง" ถ้าบ่อยครั้งคงต้องใช้เทคนิคป้องกันป่วยบ้าง ด้วยวิธีน่ารู้ น.พ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ
"อย่ารมควัน" แต่ละเฮือกที่สูดเข้าไปแกล้มเนื้อย่างอร่อยๆ นั้น จะค่อยๆ สะสม ไม่ต่างกับควันบุหรี่มือสองมือสามที่ลามเข้าปอด ถ้าเลี่ยงได้ควรปิ้งย่างในที่โล่ง และหมั่นลุกเดินออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ หยุดการย่างอร่อยกันในห้องแอร์ดีกว่า และถ้าเลือกได้ให้ระวังเรื่องถ่านที่ใช้ เพราะอาจได้สารเคมีมาปนเปื้อน
"จัดวันกิน" จะเป็นต่อสัปดาห์ หรือต่อเดือนก็ได้ เพราะบางครอบครัวมีลูกเล็กที่ชื่นชอบอาหารย่าง จะหักดิบไม่กินเลยก็ดูเป็นการทำร้ายจิตใจน้องๆ ไป แต่ควรจัดระเบียบทาน
"อย่าหมิ่นปลา" หาเนื้อปลามารับประทานด้วยจะดี เพราะมีส่วนช่วยต้านอนุมูลอิสระจากควันไฟ และเชื้อมะเร็งพีเอเอช นอกจากนี้ ปลาย่างยังดีกว่าปลาทอด โดยเฉพาะทอดแบบน้ำมันท่วมจะดึงเอาไขมันดีจากปลาหายไปส่วนหนึ่ง
"หาผักทาน" การเอาผักไปย่างด้วยก็ยังไม่เป็นปัญหาเท่าเอาผักไปรมควันในเตาแบบบาบีคิวพร้อมกับเนื้อ เพราะจะทำให้ผักได้เชื้อมะเร็งไปด้วย ดังนั้น ควรเลือกทานผักเขียวจัดอย่าง ผักบุ้ง, ฟักทอง และหอมใหญ่ที่มีแอนตี้ออกซิแดนท์มาก
"ลดอาหารเนื้อแดง" ทั้งหมู, วัว แกะ ล้วนมีมันแทรกอยู่ ซึ่งมีส่วนเติมเชื้อมะเร็งและเกาะตามผนังหลอดเลือดได้ ถ้าให้ดีควรลอกหนังออกจากไก่ และเลี่ยงการปิ้งโดยใช้หมูสามชั้นหรือสันคอหมู รวมทั้งเลี่ยงการย่างแบบสุกมากเกินไปด้วย
"อย่าแย่งซดน้ำ" น้ำซุปที่มีมันจากเนื้อย่างตกลงไปเป็นของไม่ควรทาน เพราะมีทั้งไขมันอิ่มตัว กลั้วไปด้วยความเค็มจากเครื่องหมักเนื้อ ผงชูรส ถ้าจะมีซุปร้อนซดควรสั่งแยกเป็นแกงจืดต่างหากดีกว่า
การกินเนื้อย่างไม่ว่าจะสไตล์เกาหลี แบบญี่ปุ่น หรือบุฟเฟ่ต์อย่างไทย ก็มีสิทธิ์ได้โทษเสมอกันถ้าไม่ระวัง เพราะหัวใจคือ "ควันพิษ" และ "เคมีพิษ"
ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง