๓. การเพาะพันธุ์
ต้นกล้า
ผักสวนครัว เพื่อการจำหน่าย
- พริกหอม
- โหระพา
- กะเพรา
- สะระแหน่
- ผักแพว
- ยี่หล่า
- แมงลัก
- ผักบุ้งจีน
- แตงกวา
- ข้าวโพด
- บวบหอม
- ถั่วพู
- ถั่วฝักยาว
|
จัดกระบวนการเรียนรู้
- เชิญภูมิปัญญาให้ความรู้เรื่องการเพาะพันธุ์ต้นกล้า
ผักสวนครัว
- ปฏิบัติจริง
ระยะที่ 1 การเตรียมดิน
- เริ่มต้นสำหรับการเพาะต้นกล้าก็คือ การเตรียมวัสดุสำหรับเพาะต้นกล้า ซึ่งการเลือกวัสดุเพาะต้นกล้าเราควรเลือกวัสดุที่มีความสามารถในการเก็บความชื้นได้ดี มีความโปร่งที่จะช่วยทำให้รากพืชแตกได้ดี ดังนั้นวัสดุที่เลือกส่วนใหญ่จะนิยมใช้วัสดุ 3 ชนิด คือ
ขุยมะพร้าว ขี้เถ้าแกลบ ขี้วัว
1. เตรียมเพาะพันธุ์ต้นกล้า
2. เตรียมใส่ถุงดำเพื่อแยกต้นกล้า
ระยะที่ 2 การปลูก
- หว่านเมล็ดพันธุ์ผักลงในแปลงให้ทั่วและสม่ำเสมอจากนั้นให้นำฟางมาคลุมอย่างบางแล้วลดน้ำให้ชุ่ม
ระยะที่ 3 การแยกต้นกล้า
เมื่อต้นกล้าอายุได้ประมาณ 20 วัน ก็ถอนแยกออกไปใส่ในถุงที่เตรียมอนุบาลต้นกล้าและคอยให้ปุ๋ยน้ำทุก ๆ 7 วัน
|
๑๕ คน
๑๕ ครัวเรือน
|
ทฤษฎีและปฏิบัติ ๓ ชั่วโมง
๑๔
กุมภาพันธ์
๒๕55
๑๔
กุมภาพันธ์
๒๕55
๒๔
กุมภาพันธ์
๒๕55
|
๑.ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง
๘๔ พรรษาบ้านหนองโพธิ์
(เป็นสถานที่จัดกระบวนการเรียนรู้และเป็นสถานที่ปฏิบัติจริง)
|
ประมาณการค่าใช้จ่าย
1. ขี้เถ้าแกลบ 1 คันรถ 6 ล้อ
( 1 คัน ๆ ละ ๕,๐00 บาท
= ๕,๐00 บาท)
2. ถุงดำเพาะพันธุ์กล้าไม้
( 500 ใบ 250 บาท
= 250 บาท)
3. ค่าเมล็ดพันธุ์ผัก
(6๐ ซอง ๆ ละ 2๕ บาท
= 1,5๐๐ บาท )
รวม 5,๕๐0 บาท
|
|
ระยะที่ 4 การนำจำหน่าย
- การนำพันธุ์กล้าไม้จำหน่ายหลังจากอนุบาลกล้าไม้ประมาณ ๗-๑0 วัน (นับจากวันที่นำต้นกล้าแยกใส่ถุงดำ) ควรให้อาหารเพราะว่าช่วงนี้ต้นกล้าจะเจริญเติบโตดีเพื่อการจำหน่าย
การดูแลรักษา
1.การให้น้ำจะลดน้ำ เช้า-เย็น ให้เพียงพออย่างสม่ำเสมอจะทำให้ผักเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
2.การใส่ปุ๋ย จะใช้ปุ๋ยคอกเพื่อที่จะได้ผักที่ปลอดสารเคมี
3.การป้องกันกำจัดศัตรูพืชควรดูแลรักษาป้องกันโดยใช้สารสมุนไพรที่ชาวบ้านทำขึ้นเอง เช่น ทำจากสะเดา ข่า พริก น้ำส้มควันไม้ เป็นต้น
- ติดตาม/ประเมินผล
|
|
๑๔
มีนาคม
๒๕55
|
|
|